ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

 


อดาโร่ "แม่ทัพปีศาจแห่งท้องทะเล" 
ว่ากันว่าธรรมชาติบนหมู่เกาะโซโลมอน ที่ตั้งอยู่เลยชายฝั่งทางตอนเหนือของประเทศออสเตรเลียนั้นยังสมบูรณ์และงดงามอย่างหาที่เปรียบได้ยาก ชาวพื้นเมืองที่อาศัยอยู่บนหมู่เกาะแห่งนี้ เรียกกันว่าชาวเมลานีเซียน ชนชาติโบราณที่มีประเพณีในการกินเนื้อคน แบ่งออกได้เป็น หลายเผ่านอกจากดำรงชีวิตด้วยการหาอาหารทั่วไปแล้วยังมีการบุกโจมตีเผ่าข้างเคียงด้วย เผ่าไหนแพ้ก็กลายเป็นอาหารให้เผ่าที่ชนะไป อาหารขึ้นชื่อของชนเผ่านี้ก็คือ เนื้ออัดกระบอกไม้ไผ่ ในอดีตจะใช้เนื้อมนุษย์ แต่หลังจากที่มีการประกาศกฎหมายห้ามกินเนื้อคนแล้วจึงเปลี่ยนเป็นเนื้ออื่นๆแทน ถึงแม้ในปัจจุบันชาวเมลานีเซียนจะเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ เพราะมีเหล่ามิชชันนารีผู้เผยแผ่คำสอนของพระเยซูไปเยี่ยมเยือน แต่พวกเขาก็ยังคงรักษาความเชื่อเกี่ยวกับธรรมชาติไว้อย่างเหนียวแน่น ชนเผ่านี้นับถือจิตวิญญาณแห่งธรรมชาติเป็นเทพเจ้าและยกย่องปีศาจอดาโร่ในฐานะจิตวิญญาณแห่งพระอาทิตย์ อดาโร่มีร่างกายท่อน บนเหมือนมนุษย์แต่มีครีบ ท่อนล่างเป็นปลาฉลาม ว่ากันว่าทุกๆ เช้า ปีศาจอดาโร่จะใช้ สายรุ้งเป็นสะพานเดินลงมายังโลกมนุษย์ บางตำนานบอกว่าอดาโร่เกิดขึ้นมาจากจิตวิญญาณชั่วร้ายของคนตายที่ไปสิงสู่อยู่ในท้องทะเล แต่ที่แน่ๆ ปีศาจอดาโร่มีลูกน้องเป็นฝูงปลาปีศาจ ซึ่งสามารถบินได้ หากมีผู้บุกรุกที่ไม่ประสงค์ดีต่อชาวเกาะโซโลมอนแวะเวียนมา จะต้องเจอกับฝูงปลาบินที่มีกำลังทำลายล้างสูง ไม่ก็พายุงวงช้างที่แสนอันตราย นอกจากสายรุ้งแล้ว อดาโร่ยังสามารถน้ำวน หรือพวกพายุหมุนต่างๆ ไปโจมตีศัตรูได้อีกด้วย ปีศาจอดาโร่นั้น ไม่ได้มีชื่อเสียงมากมาย แต่มักจะได้รับเชิญไปเป็นตัวประกอบในภาพยนตร์ หรือการ์ตูนอยู่บ่อยๆ โดยมากมักจะเป็นฝั่งผู้ร้าย ใช้ฝูงปลาบินกับน้ำวนโจมตี ซึ่งพระเอก ทั้งที่จริงแล้วชาวเมลานีเซียนนี่นับถืออดาโร่เป็นผู้พิทักษ์เกาะเลยน้า...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คาริบดิส "วังวนวนมหากาฬ" ก่อนที่จะถูกสาปให้กลายเป็นอสุรกาย พรายน้ำคาริบลิสเป็นถึงธิดาของเทพโพไซดอน ราชาแห่งท้องทะเล กับเทพไกอา มารดาแห่งผืนดินคาริบดิสจงรักภักดีต่อบิดามากนางไม่พอใจที่ซูสได้เป็นราชาแห่งสวรรค์ จึงดลบันดาลให้น้ำท่วมพื้นดินไปเรื่อยๆ เพื่อที่ขอบข่ายอำนาจของเทพโพไซ ดอนจะได้เพิ่มมากขึ้น ซูสเลยจัดการสาปนางให้กลายเป็นหนอนทะเลยักษ์ที่ต้องคอยสูบน้ำเข้าท้องเป็นจำนวนมหาศาล แล้วค่อยพ่นออกมาทีหลัง ต้องทำเช่นนี้วันละ 3 ครั้ง ไปตลอดกาล การสูบน้ำเข้าออกเช่นนี้ทำให้เกิดน้ำวนขนาดยักษ์ที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย ไม่ว่าเรือที่แล่นผ่านจะใหญ่ขนาดไหนก็ล้วนต้องอับปางลงทั้งสิ้น โฮเมอร์ได้เล่าไว้ในมหากาพย์โอดิสซีย์ว่า หลังจากเสร็จสิ้นสงครามโทรจัน โอดิสซีอุสต้องเดินทางกลับมาตุภูมิด้วยการล่องเรือผ่านเกาะซิซิลี โดยมีให้เลือกเพียง 2 ช่องทางเท่านั้น คือช่องทางที่มี นางปีศาจสคิลลา และช่องแคบคาริบดิส เทพีเซอร์มาแนะนำว่าให้ไปทางช่องแคบที่มีปีศาจสคิลลาอยู่สิ เพราะนางปีศาจตัวนี้มีแค่ 6 หัวเท่านั้น เมื่อถึงช่องแคบให้ทำการสังเวยลูกเรือไป 6 คน เมื่อสกิลลาคาบคนไปหัวละคนแล้วปากจะไม่ว่าง ทำให้ล่องเรือผ...
  อัมมุท " ผู้กัดกินวิญญาน "  สัตว์ประหลาดในตำนานของอียิปต์ส่วนใหญ่นั้น มักมีศักดิ์เป็นถึงเทพเจ้าที่มีคนนับถือ บูชามากมาย แต่ยกเว้นเจ้าปีศาจอัมมทไว้หนึ่งตัว มันมีรูปร่างประหลาดสุดๆ คือมีส่วน หัวเป็นจระเข้ ลำตัวท่อนบนเป็นสิงโต ท่อนล่างเป็นฮิปโปโปเตมัส ซึ่งสัตว์ทั้ง 3 ชนิด นี้ ถือเป็นนักล่าตัวโหดที่ชาวอียิปต์โบราณหวาดกลัวกันมาก เจ้าอัมมุทมีหน้าที่สำคัญ ในการกิน โหหหห... ช่างเป็นอาชีพที่น่าอิจฉามากเลย แต่ขอโทษกินหัวใจและกระดูก ของผู้ตายจ้า ชาวอียิปต์มีความเชื่อว่า เมื่อพวกตนตายวิญญาณจะถูกนำไปยังห้องโถง แห่งการพิพากษา ต่อหน้าเทวสภาทั้งปวง ณ ที่นั่น เทพมาอัดจะเป็นผู้พิพากษาความ ตีความชั่วของผู้ตาย โดยมีเทพอนูบิสเป็นผู้นำหัวใจของผู้ตายออกมานั่งเปรียบเทียบกับ ขนนก หากผู้ตายมีจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ น้ำหนักของขนนกจะหนักกว่า แต่ถ้าหัวใจ ถ่วงตาชั่งไปยังฝั่งตรงข้าม แปลว่าผู้ตายเต็มไปด้วยบาป หัวใจดวงนั้นจะถูกโยนลงมา ให้อสุรกายอัมมุกกัดกินทันที เมื่อถูกอุ้มมุกกินแล้ว คนผู้นั้นจะถือว่าเป็นผู้ที่ตายครั้ง ที่สอง หมายความว่าได้ตายลงอีกครั้งหนึ่ง และครั้งนี้ถือว่าตายถาวร วิญญาณจะสูญ สลายไปสิ้น ไ...
  คิเมร่า "สัตว์ประหลาด 3 หัว" อสุรกายคิเมร่ามีสามหัว ซึ่งหัวทั้งสามยังเป็นสัตว์คนละชนิดกันอีกด้วย หัวหนึ่งเป็นมังกร อีกหัวเป็นสิงโต และหัวสุดท้ายเป็นแพะ แล้วยังมีหางเป็นงูซะอีก คิเมร่ามีลมหายใจเป็นไฟที่มีพิษ ผิวหนังก็แข็งแกร่งราวเหล็กกล้า ตีรันฟันแทงไม่เข้า ผู้ที่จะมาปราบคิเมร่าคือ เบลเลอโรฟอนบุตรของกษัตริย์แห่งโครินธ์ ผู้ตั้งปณิธานไว้ว่าอยากจะเป็นนักขี่ม้าที่ยอดเยี่ยมที่สุด และหวังจะได้ขี่ม้าเทพเจ้าอย่างเพกาซัส เพื่อการนั้น เบลเลอโรฟอนจึงบูชาต่อเทพีอธีนา เทพเจ้าแห่งสติปัญญาให้ช่วยเหลือ เนื่องจากบรรพบุรุษของเบลเลอโรฟอนถือได้ว่ามีเชื้อสายเทพ เทพีอธีนาจึงเสด็จมาช่วยโดยการมอบบังเหียนทองคำให้ในฝันและเมื่อตื่นนอน วีรบุรุษหนุ่มผู้นี้ก็เจอม้าเพกาซัสลงมากินน้ำพุแห่งโครินธ์ต่อหน้าต่อตา จึงคล้องจับซะเลย เมื่อจับได้สมใจก็ขี่เพกาซัสเหาะขึ้นไปบนอากาศ วันดีคืนดีได้มาเจอเข้ากับอสุรกายคิเมร่าที่กำลังสนุกอยู่ กับการอาละวาดที่เมืองลิเกียพอดี กษัตริย์แห่งเมืองลิเกียจึงขอร้องให้เบลเลอโรฟอนช่วยจัดการ เจ้าอสูรร้าย ด้วยเหตุที่มันเหาะอยู่บนอากาศทำให้ไม่มีใครสามารถบินไปจัดการได้ แม้จะมีพาหนะเป็นถึ...

สภาพอากาศ

สภาพอากาศ, 21 เมษายน
สภาพอากาศใน อุดรธานี
+37

สูง: +38° ต่ำ: +29°

ความชื้น: 46%

ลม: SW - 14 KPH

สัตว์ร้ายในตำนาน ตอนที่ 1