ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

 

เลอเนียนไฮดรา "ผู้พิทักษ์ทางเข้ายมโลก" 

ไฮดรา มังกรยักษ์ 9 หัว ทั่วร่างกายล้วนปกคลุมไปด้วยเกล็ดที่แข็งแกร่งราวกับเพชร มีลมหายใจเป็นพิษ ขนาดที่ใครเข้าใกล้ปุ๊บ ตายปั๊บเลย สิ่งที่โหดที่สุดคือ ความสามารถพิสดารที่จะงอกหัวออกมาใหม่ได้แม้จะถูกตัดไปแล้วก็ตาม ชาวกรีกในสมัยโบราณเชื่อว่าโลกแบน หากเดินทางไปเรื่อยๆจนสุดขอบโลกก็จะพบช่องทางลับลงไปยังโลกแห่งความตายได้ เหล่าเทพบนสวรรค์จึงมอบหมายหน้าที่สำคัญแก่ไฮดรา หนึ่งในบรรดาเผ่าพันธุ์อสุรกายของไทฟอน นั่นคือให้ลงมาประจำการอยู่ที่บึงเลอร์นา ช่องทางพิเศษลงไปสู่ยมโลกสำหรับผู้ที่ยังไม่ตาย นานวันเข้าจากชื่อไฮดราเฉยๆ คนก็เรียกเป็นเลอร์เนียนไฮดรา ตามชื่อบึงที่มันประจำการอยู่นั่นแหละ เจ้าตัวนี้ทำหน้าที่ผู้พิทักษ์ที่ดีมาหลายร้อยปีจนกระทั่งกษัตริย์ยูริอุส ส่งเฮอร์คิวลีสมาปราบเจ้าเลอร์เนียนไฮดรา ซึ่งสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้แก่วีรบุรุษชาวกรีกผู้นี้ เป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะต้องคอยกลั้นหายใจเพื่อหลีกเลี่ยงลมหายใจพิษเวลาต่อสู้แล้ว ยิ่งตัดหัวไฮดรามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งงอกออกมาเรื่อยๆ อย่างกับหางจิ้งจก แถมแม่เลี้ยงตัวป่วนอย่างเทพีเฮรายังส่งปูมาคอยหนีบข้อเท้าอีกต่างหาก หลังจากพยายามต่อสู้อยู่พักใหญ่ จึงไปชวนอิโอลุสผู้เป็นหลานมาช่วยกันปราบปีศาจซะเลย โดยเมื่อเฮอร์คิวลีสตัดหัวแล้ว อีโอลุสจะต้องเอาไฟไปจ่อแผลที่เพิ่งโดนตัดทันที อีกตำนานบอกว่า เอาพิษในเลือดของไฮดราเองนั่น แหละไปทาแผล เพื่อไม่ให้หัวงอกออกมาใหม่ได้ ท้ายที่สุดด้วยความร่วมมือร่วมใจกัน ทั้งสอง ก็ปราบอสุรกายยักษ์ 9 หัวลงได้ เฮอร์คิวลีสยังเอาลูกธนูที่ได้รับจากเทพอพอลโลไปอาบยาพิษจากเลือดของไฮดราไว้สำหรับปฏิบัติภารกิจที่อื่นๆ ต่อไปส่วนใหญ่ก็ปราบปีศาจอ่ะนะ สรุปเลือดไฮดรานี่แหละ ที่ฆ่าพี่น้องตัวเองที่เหลืออยู่ไปอีกหลายคนเลย


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คาริบดิส "วังวนวนมหากาฬ" ก่อนที่จะถูกสาปให้กลายเป็นอสุรกาย พรายน้ำคาริบลิสเป็นถึงธิดาของเทพโพไซดอน ราชาแห่งท้องทะเล กับเทพไกอา มารดาแห่งผืนดินคาริบดิสจงรักภักดีต่อบิดามากนางไม่พอใจที่ซูสได้เป็นราชาแห่งสวรรค์ จึงดลบันดาลให้น้ำท่วมพื้นดินไปเรื่อยๆ เพื่อที่ขอบข่ายอำนาจของเทพโพไซ ดอนจะได้เพิ่มมากขึ้น ซูสเลยจัดการสาปนางให้กลายเป็นหนอนทะเลยักษ์ที่ต้องคอยสูบน้ำเข้าท้องเป็นจำนวนมหาศาล แล้วค่อยพ่นออกมาทีหลัง ต้องทำเช่นนี้วันละ 3 ครั้ง ไปตลอดกาล การสูบน้ำเข้าออกเช่นนี้ทำให้เกิดน้ำวนขนาดยักษ์ที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย ไม่ว่าเรือที่แล่นผ่านจะใหญ่ขนาดไหนก็ล้วนต้องอับปางลงทั้งสิ้น โฮเมอร์ได้เล่าไว้ในมหากาพย์โอดิสซีย์ว่า หลังจากเสร็จสิ้นสงครามโทรจัน โอดิสซีอุสต้องเดินทางกลับมาตุภูมิด้วยการล่องเรือผ่านเกาะซิซิลี โดยมีให้เลือกเพียง 2 ช่องทางเท่านั้น คือช่องทางที่มี นางปีศาจสคิลลา และช่องแคบคาริบดิส เทพีเซอร์มาแนะนำว่าให้ไปทางช่องแคบที่มีปีศาจสคิลลาอยู่สิ เพราะนางปีศาจตัวนี้มีแค่ 6 หัวเท่านั้น เมื่อถึงช่องแคบให้ทำการสังเวยลูกเรือไป 6 คน เมื่อสกิลลาคาบคนไปหัวละคนแล้วปากจะไม่ว่าง ทำให้ล่องเรือผ...
  อัมมุท " ผู้กัดกินวิญญาน "  สัตว์ประหลาดในตำนานของอียิปต์ส่วนใหญ่นั้น มักมีศักดิ์เป็นถึงเทพเจ้าที่มีคนนับถือ บูชามากมาย แต่ยกเว้นเจ้าปีศาจอัมมทไว้หนึ่งตัว มันมีรูปร่างประหลาดสุดๆ คือมีส่วน หัวเป็นจระเข้ ลำตัวท่อนบนเป็นสิงโต ท่อนล่างเป็นฮิปโปโปเตมัส ซึ่งสัตว์ทั้ง 3 ชนิด นี้ ถือเป็นนักล่าตัวโหดที่ชาวอียิปต์โบราณหวาดกลัวกันมาก เจ้าอัมมุทมีหน้าที่สำคัญ ในการกิน โหหหห... ช่างเป็นอาชีพที่น่าอิจฉามากเลย แต่ขอโทษกินหัวใจและกระดูก ของผู้ตายจ้า ชาวอียิปต์มีความเชื่อว่า เมื่อพวกตนตายวิญญาณจะถูกนำไปยังห้องโถง แห่งการพิพากษา ต่อหน้าเทวสภาทั้งปวง ณ ที่นั่น เทพมาอัดจะเป็นผู้พิพากษาความ ตีความชั่วของผู้ตาย โดยมีเทพอนูบิสเป็นผู้นำหัวใจของผู้ตายออกมานั่งเปรียบเทียบกับ ขนนก หากผู้ตายมีจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ น้ำหนักของขนนกจะหนักกว่า แต่ถ้าหัวใจ ถ่วงตาชั่งไปยังฝั่งตรงข้าม แปลว่าผู้ตายเต็มไปด้วยบาป หัวใจดวงนั้นจะถูกโยนลงมา ให้อสุรกายอัมมุกกัดกินทันที เมื่อถูกอุ้มมุกกินแล้ว คนผู้นั้นจะถือว่าเป็นผู้ที่ตายครั้ง ที่สอง หมายความว่าได้ตายลงอีกครั้งหนึ่ง และครั้งนี้ถือว่าตายถาวร วิญญาณจะสูญ สลายไปสิ้น ไ...
  คิเมร่า "สัตว์ประหลาด 3 หัว" อสุรกายคิเมร่ามีสามหัว ซึ่งหัวทั้งสามยังเป็นสัตว์คนละชนิดกันอีกด้วย หัวหนึ่งเป็นมังกร อีกหัวเป็นสิงโต และหัวสุดท้ายเป็นแพะ แล้วยังมีหางเป็นงูซะอีก คิเมร่ามีลมหายใจเป็นไฟที่มีพิษ ผิวหนังก็แข็งแกร่งราวเหล็กกล้า ตีรันฟันแทงไม่เข้า ผู้ที่จะมาปราบคิเมร่าคือ เบลเลอโรฟอนบุตรของกษัตริย์แห่งโครินธ์ ผู้ตั้งปณิธานไว้ว่าอยากจะเป็นนักขี่ม้าที่ยอดเยี่ยมที่สุด และหวังจะได้ขี่ม้าเทพเจ้าอย่างเพกาซัส เพื่อการนั้น เบลเลอโรฟอนจึงบูชาต่อเทพีอธีนา เทพเจ้าแห่งสติปัญญาให้ช่วยเหลือ เนื่องจากบรรพบุรุษของเบลเลอโรฟอนถือได้ว่ามีเชื้อสายเทพ เทพีอธีนาจึงเสด็จมาช่วยโดยการมอบบังเหียนทองคำให้ในฝันและเมื่อตื่นนอน วีรบุรุษหนุ่มผู้นี้ก็เจอม้าเพกาซัสลงมากินน้ำพุแห่งโครินธ์ต่อหน้าต่อตา จึงคล้องจับซะเลย เมื่อจับได้สมใจก็ขี่เพกาซัสเหาะขึ้นไปบนอากาศ วันดีคืนดีได้มาเจอเข้ากับอสุรกายคิเมร่าที่กำลังสนุกอยู่ กับการอาละวาดที่เมืองลิเกียพอดี กษัตริย์แห่งเมืองลิเกียจึงขอร้องให้เบลเลอโรฟอนช่วยจัดการ เจ้าอสูรร้าย ด้วยเหตุที่มันเหาะอยู่บนอากาศทำให้ไม่มีใครสามารถบินไปจัดการได้ แม้จะมีพาหนะเป็นถึ...

สภาพอากาศ

สภาพอากาศ, 30 เมษายน
สภาพอากาศใน อุดรธานี
+36

สูง: +37° ต่ำ: +25°

ความชื้น: 49%

ลม: NNW - 11 KPH

สัตว์ร้ายในตำนาน ตอนที่ 1