คาริบดิส "วังวนวนมหากาฬ"

ก่อนที่จะถูกสาปให้กลายเป็นอสุรกาย พรายน้ำคาริบลิสเป็นถึงธิดาของเทพโพไซดอน ราชาแห่งท้องทะเล กับเทพไกอา มารดาแห่งผืนดินคาริบดิสจงรักภักดีต่อบิดามากนางไม่พอใจที่ซูสได้เป็นราชาแห่งสวรรค์ จึงดลบันดาลให้น้ำท่วมพื้นดินไปเรื่อยๆ เพื่อที่ขอบข่ายอำนาจของเทพโพไซ ดอนจะได้เพิ่มมากขึ้น ซูสเลยจัดการสาปนางให้กลายเป็นหนอนทะเลยักษ์ที่ต้องคอยสูบน้ำเข้าท้องเป็นจำนวนมหาศาล แล้วค่อยพ่นออกมาทีหลัง ต้องทำเช่นนี้วันละ 3 ครั้ง ไปตลอดกาล การสูบน้ำเข้าออกเช่นนี้ทำให้เกิดน้ำวนขนาดยักษ์ที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย ไม่ว่าเรือที่แล่นผ่านจะใหญ่ขนาดไหนก็ล้วนต้องอับปางลงทั้งสิ้น โฮเมอร์ได้เล่าไว้ในมหากาพย์โอดิสซีย์ว่า หลังจากเสร็จสิ้นสงครามโทรจัน โอดิสซีอุสต้องเดินทางกลับมาตุภูมิด้วยการล่องเรือผ่านเกาะซิซิลี โดยมีให้เลือกเพียง 2 ช่องทางเท่านั้น คือช่องทางที่มี นางปีศาจสคิลลา และช่องแคบคาริบดิส เทพีเซอร์มาแนะนำว่าให้ไปทางช่องแคบที่มีปีศาจสคิลลาอยู่สิ เพราะนางปีศาจตัวนี้มีแค่ 6 หัวเท่านั้น เมื่อถึงช่องแคบให้ทำการสังเวยลูกเรือไป 6 คน เมื่อสกิลลาคาบคนไปหัวละคนแล้วปากจะไม่ว่าง ทำให้ล่องเรือผ่านไปได้ แต่ต่อมาก็มีผู้ที่สามารถผ่านน้ำวนของคาริบเสมาได้ นั่นก็คือโอดิสซีอุสเจ้าเดิมนี่เอง รอบนี้เขา ผ่านมาในสภาพเรือแตกมีแค่แพเล็กๆ กับชีวิตเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น ถ้าจะเสี่ยงไปทางที่มีสคิลลาอยู่เห็นจะต้องตายชัวร์ จึงเลือกมาเผชิญกับน้ำวนแทน ในระหว่างที่ตกลงไปในหลุมน้ำวน โอดิสซีอุสได้ถอนต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นบริเวณช่องแคบมาไว้ต้นหนึ่งเพื่อค้ำอุโมงค์น้ำวนเอาไว้ แม้จะถูกสูบลงไป แต่ปากทางก็ยังไม่ปิด รอจนเวลาที่คาริบดิสต้องพ่นน้ำออกมา แพของโอดิสซีอุสก็จะถูกพ่นออก มาพร้อมกัน คาริบดิสถือได้ว่าโชคร้ายกว่าเพื่อนบ้าน เพราะถึงแม้สคิลลาจะถูกเฮอร์คิวลีสฆ่าตาย แต่ก็ได้คืนร่างเดิม ส่วนคาริบดิสกลับถูกลงโทษไปตลอดกาล