ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก


ไทฟอน "บิดาของปีศาจร้าย" 
ไทฟอน ถือได้ว่าเป็นอสุรกายที่แข็งแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์อสุรกายของโลก มีหัวเป็นมังกรถึง 100 หัว มีปีกที่ยาวใหญ่โต ลขึ้นมา คือการทำลายล้างสวรรค์โอลิมปัส โดยเฉพาะ มหาเทพซูส ไทฟอนทำให้ทวยเทพบนสวรรค์หนีตายกันจ้าละหวั่น ส่วนใหญ่จะแปลงร่างเป็น สัตว์แล้วหนีไปอยู่อียิปต์กัน มีเทพเพียง 3 องค์เท่านั้นที่ยืนหยัดต่อสู้กับอสูรไทฟอน คือ มหาเทพซูส เทพเจ้าสายฟ้า เทมหายใจเป็นไฟ อ้าปากพ่นลาวาได้อีกทั้งพละกำลังก็มหาศาลขนาดที่ยกภูเขาขึ้นได้ทั้งลูกเลยล่ะ ไทฟอนมีภรรยาเป็นปีศาจชื่อว่า อีคิดน่า ทั้งคู่ให้กำเนิดปีศาจอีกหลายคนซึ่งล้วนแต่มีบทบาทสำคัญในตำนานเทพกรีกทั้งสิ้น ภารกิจ สำคัญที่ทำให้เจ้าอสูรไทฟอนถือกำเนิดพีอธีนา เทพเจ้าแห่งการสงครามและสติปัญญา และเทพไดโอนีซุสเทพเจ้าแห่งเมรัย แต่หนังของไทฟอนนั้นหนามาก ทั้งยังสามารถสะท้อนเวทมนตร์ต่างๆ ได้ ทำให้การต่อสู้ของฝ่ายเทพเป็นไปอย่างยากลำบาก ถึงขนาดที่ว่า มีบางทีที่ชูสต้องแอบแปลง ร่างเป็นแกะเพื่อหลบหนีเอาชีวิตรอดกันเลย ในการต่อสู้ครั้งนี้ไทฟอนยกภูเขาหลายลูกขึ้นมา ทุ่มใส่เหล่าเทพเจ้าอย่างง่ายดาย จนมาถึงภูเขาลูกสุดท้าย ภูเขาเอาน่า ว่ากันว่าเป็นภูเขาลูก ใหญ่มหึมา ไทฟอนยกภูเขาลูกนี้ขึ้น หมายใจจะทุ่มใส่โอลิมปัสให้ร่วงหล่นลงมา มหาเทพซูสเห็น ดังนั้น ฉุกใจนึกขึ้นได้ว่านี่อาจจะเป็นโอกาสที่หาไม่ได้อีกแล้ว พระองค์จึงยิ่งสายฟ้าอสนีบาต ไปยังภูเขาเอตน่าที่ไทฟอนแบกอยู่ ด้วยอำนาจของสายฟ้า ภูเขาเอตน่าแตกออกเป็นเสี่ยงโถม น้ำหนักอันมหาศาลถล่มทับไทฟอน ปิดฉากอสุรกายร้ายในตำนาน แต่ไทฟอนยังไม่ตายไป หรอก แค่โดนภูเขาทับ ทำอะไรไม่ได้ก็เลยพ่นลาวาออกมา ทุกวันนี้ภูเขาไฟเอาน่าก็ยังไม่ดับ รอวันที่จะปะทุออกมาต่อไป

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คาริบดิส "วังวนวนมหากาฬ" ก่อนที่จะถูกสาปให้กลายเป็นอสุรกาย พรายน้ำคาริบลิสเป็นถึงธิดาของเทพโพไซดอน ราชาแห่งท้องทะเล กับเทพไกอา มารดาแห่งผืนดินคาริบดิสจงรักภักดีต่อบิดามากนางไม่พอใจที่ซูสได้เป็นราชาแห่งสวรรค์ จึงดลบันดาลให้น้ำท่วมพื้นดินไปเรื่อยๆ เพื่อที่ขอบข่ายอำนาจของเทพโพไซ ดอนจะได้เพิ่มมากขึ้น ซูสเลยจัดการสาปนางให้กลายเป็นหนอนทะเลยักษ์ที่ต้องคอยสูบน้ำเข้าท้องเป็นจำนวนมหาศาล แล้วค่อยพ่นออกมาทีหลัง ต้องทำเช่นนี้วันละ 3 ครั้ง ไปตลอดกาล การสูบน้ำเข้าออกเช่นนี้ทำให้เกิดน้ำวนขนาดยักษ์ที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย ไม่ว่าเรือที่แล่นผ่านจะใหญ่ขนาดไหนก็ล้วนต้องอับปางลงทั้งสิ้น โฮเมอร์ได้เล่าไว้ในมหากาพย์โอดิสซีย์ว่า หลังจากเสร็จสิ้นสงครามโทรจัน โอดิสซีอุสต้องเดินทางกลับมาตุภูมิด้วยการล่องเรือผ่านเกาะซิซิลี โดยมีให้เลือกเพียง 2 ช่องทางเท่านั้น คือช่องทางที่มี นางปีศาจสคิลลา และช่องแคบคาริบดิส เทพีเซอร์มาแนะนำว่าให้ไปทางช่องแคบที่มีปีศาจสคิลลาอยู่สิ เพราะนางปีศาจตัวนี้มีแค่ 6 หัวเท่านั้น เมื่อถึงช่องแคบให้ทำการสังเวยลูกเรือไป 6 คน เมื่อสกิลลาคาบคนไปหัวละคนแล้วปากจะไม่ว่าง ทำให้ล่องเรือผ...
  อัมมุท " ผู้กัดกินวิญญาน "  สัตว์ประหลาดในตำนานของอียิปต์ส่วนใหญ่นั้น มักมีศักดิ์เป็นถึงเทพเจ้าที่มีคนนับถือ บูชามากมาย แต่ยกเว้นเจ้าปีศาจอัมมทไว้หนึ่งตัว มันมีรูปร่างประหลาดสุดๆ คือมีส่วน หัวเป็นจระเข้ ลำตัวท่อนบนเป็นสิงโต ท่อนล่างเป็นฮิปโปโปเตมัส ซึ่งสัตว์ทั้ง 3 ชนิด นี้ ถือเป็นนักล่าตัวโหดที่ชาวอียิปต์โบราณหวาดกลัวกันมาก เจ้าอัมมุทมีหน้าที่สำคัญ ในการกิน โหหหห... ช่างเป็นอาชีพที่น่าอิจฉามากเลย แต่ขอโทษกินหัวใจและกระดูก ของผู้ตายจ้า ชาวอียิปต์มีความเชื่อว่า เมื่อพวกตนตายวิญญาณจะถูกนำไปยังห้องโถง แห่งการพิพากษา ต่อหน้าเทวสภาทั้งปวง ณ ที่นั่น เทพมาอัดจะเป็นผู้พิพากษาความ ตีความชั่วของผู้ตาย โดยมีเทพอนูบิสเป็นผู้นำหัวใจของผู้ตายออกมานั่งเปรียบเทียบกับ ขนนก หากผู้ตายมีจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ น้ำหนักของขนนกจะหนักกว่า แต่ถ้าหัวใจ ถ่วงตาชั่งไปยังฝั่งตรงข้าม แปลว่าผู้ตายเต็มไปด้วยบาป หัวใจดวงนั้นจะถูกโยนลงมา ให้อสุรกายอัมมุกกัดกินทันที เมื่อถูกอุ้มมุกกินแล้ว คนผู้นั้นจะถือว่าเป็นผู้ที่ตายครั้ง ที่สอง หมายความว่าได้ตายลงอีกครั้งหนึ่ง และครั้งนี้ถือว่าตายถาวร วิญญาณจะสูญ สลายไปสิ้น ไ...
  คิเมร่า "สัตว์ประหลาด 3 หัว" อสุรกายคิเมร่ามีสามหัว ซึ่งหัวทั้งสามยังเป็นสัตว์คนละชนิดกันอีกด้วย หัวหนึ่งเป็นมังกร อีกหัวเป็นสิงโต และหัวสุดท้ายเป็นแพะ แล้วยังมีหางเป็นงูซะอีก คิเมร่ามีลมหายใจเป็นไฟที่มีพิษ ผิวหนังก็แข็งแกร่งราวเหล็กกล้า ตีรันฟันแทงไม่เข้า ผู้ที่จะมาปราบคิเมร่าคือ เบลเลอโรฟอนบุตรของกษัตริย์แห่งโครินธ์ ผู้ตั้งปณิธานไว้ว่าอยากจะเป็นนักขี่ม้าที่ยอดเยี่ยมที่สุด และหวังจะได้ขี่ม้าเทพเจ้าอย่างเพกาซัส เพื่อการนั้น เบลเลอโรฟอนจึงบูชาต่อเทพีอธีนา เทพเจ้าแห่งสติปัญญาให้ช่วยเหลือ เนื่องจากบรรพบุรุษของเบลเลอโรฟอนถือได้ว่ามีเชื้อสายเทพ เทพีอธีนาจึงเสด็จมาช่วยโดยการมอบบังเหียนทองคำให้ในฝันและเมื่อตื่นนอน วีรบุรุษหนุ่มผู้นี้ก็เจอม้าเพกาซัสลงมากินน้ำพุแห่งโครินธ์ต่อหน้าต่อตา จึงคล้องจับซะเลย เมื่อจับได้สมใจก็ขี่เพกาซัสเหาะขึ้นไปบนอากาศ วันดีคืนดีได้มาเจอเข้ากับอสุรกายคิเมร่าที่กำลังสนุกอยู่ กับการอาละวาดที่เมืองลิเกียพอดี กษัตริย์แห่งเมืองลิเกียจึงขอร้องให้เบลเลอโรฟอนช่วยจัดการ เจ้าอสูรร้าย ด้วยเหตุที่มันเหาะอยู่บนอากาศทำให้ไม่มีใครสามารถบินไปจัดการได้ แม้จะมีพาหนะเป็นถึ...

สภาพอากาศ

สภาพอากาศ, 11 พฤษภาคม
สภาพอากาศใน อุดรธานี
+29

สูง: +32° ต่ำ: +24°

ความชื้น: 52%

ลม: E - 16 KPH

สัตว์ร้ายในตำนาน ตอนที่ 1